11 May 2009

Counterfeit kits Problem in Thailand.

Hello all,

Today I will talk about counterfeit kits problem in Thailand. as every one know my country also have repute in bad way like counterfeit products. alot of tourist have said "if you go to Thailand... there is heavens of counterfeit shopping". songs, games, clothing, muvies etc., also the Figure kits.

the counterfeit figure kits is a long problem until now. some Thai modeller said... because he or she is hard to buy the copyright figure out side Thailand, but anyone know this problem was too old. why?... because 15-20 year ago no have internet and PayPal but now every home have. it is not good reason for buy counterfeit. other reason from them is"because the copyright is expensive...I would like the good one in low cost". as you know... the copyright are good quality than it is more hi-class and also... as you know company have pay big money for sculptor but Copy company not... he is the real thief!. if you no more money... or think like the resin or metal figures are too expensive, yes you can go with plastic figures like DML, Tristar, Tamiya etc. why not?, my friend Calvin Tan can painted plastic very fantastic and really nice like resin figure.

some reason said... because his ability is not good enough for painted copyright he has feel regret sum of money, he think it may good way to train with counterfeit. answer is same above...go with plastic. because some of reason as I said, many Thai modeller have look the counterfeit like his/her Hero, but he dont know... this way will destroy model socity. why the copy right is hard to find or can not find here?. why we dont have any figure dealers here?. because have alot of counterfeil here!. long time ago we have a good dealer at Bangkok, he import Verlinden, Kilin, Armati, Concord, etc. but when he was release new figures... he can sell only 1-2 copy and after 1-2 week it has same figure counterfeit release around Bangkok!. that shop cant stand strong long time, he close after open about 1-2 year because debt.

very good lesson but not long time, modeller forget this lesson. counterfeit kits still alot on market... have their own catalog and sell like not fear the TH laws. why?... some modeller or website have protect it. alot of fear to no have it!. but thay did not know. with this action... he will no have any good figures sell again in TH. he will can buy only counterfeit and never rise this socity to international!. dude! would like to show your works only in underground?

Pongster.

ฟิกเกอร์ละเมิดลิขสิทธิ์...หนทางที่โรยด้วยกุหลาบหรือเถาหนาม?

วันนี้ผมตั้งใจจะมาพูดถึงกรณีที่มีการถกเถียงกันมายาวนาน เกี่ยวกับการที่สินค้าประเภทโมเดลฟิกเกอร์หรือบุคคลจำลองที่มีส่วนพัวพันกับกรณีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา อันเป็นปัญหาที่สารพันความคิด...ทั้งที่คิดผิดๆ และโดยรู้เท่าไม่ถึงการ หรือรู้แล้วเมินเฉยก็ตามที...

บางคนอ้างว่า การที่พวกเขาสนับสนุนสินค้าเหล่านี้ เนื่องมาจากความจำเป็นและความเป็นจริงที่ว่า "เป็นการยาก ที่จะหาโมเดลจากนอกประเทศ" จริงอยู่ที่สมัยก่อนที่อินเตอร์เน็ตจะเฟื่องฟู พวกเราต้องสั่งสินค้ามาทางเรือ ซึ่งกินเวลานานโข ซึ่งถ้าบวกเวลาการส่งแอร์เมลและการไปขอมัยบัตรซึ่งเป็นเอกสารสำหรับส่งเงินออกนอกประเทศแล้วนับว่าไม่ทันกิน...แต่สมัยนี้ที่ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตมีความนิยมกันมากขึ้น...นับว่าเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นหรือดูมักง่ายเหลือเกินที่จะทำซ้ำสินค้าที่มีเจ้าของอยู่แล้วขึ้นมาหากินกันเอง

หลายๆท่านกล่าวว่าสินค้าถูกกฎหมายเหล่านั้นมีราคาสูง ด้วยสภาพทางการเงินฉันอยากได้ของที่ราคาถูกที่สุด.... ทั้งนี้ทุกท่านรู้ดีว่า สินค้าถูกกฎหมายทั้งหลายมีคุณภาพที่ดี ระบบหีบห่อและการรับประกันที่ดี นั่นหมายถึงค่าใช้จ่าย... นี่ยังไม่รวมค่าโฆษณา ค่าจ้างนักปั้นและนักเพ้นต์ซึ่งสูงลิ่ว จึงเป็นข้อแตกต่างกับสินค้าละเมิด ซึ่งหยิบยืมของๆเขามาปั๊มไม่ต่างกับขโมย และคนซื้อก็ซื้อของโจรมาอีกทีไงครับ...
การแก้ใขในเรื่องนี้นั้นไม่ยาก ถ้าเปรียบเทียบกัน ถ้าคุณมีเงินไม่พอซื้อมอเตอร์ไซด์แต่อยากได้ยานพาหนะ...คุณก็ซื้อจักรยานสิครับ จะไปซื้อรถที่เขาขโมยมาทำไม? นี่ผมกำลังพูดถึง ถ้าคุณไม่สามารถหาฟิกเกอร์เรซิ่นหรือโลหะดีๆได้เพราะราคาสูง คุณก็ยังมีตัวเลือกเป็นพลาสติกอยูอีกทางหนึ่ง พอได้ฟังอย่างนี้บางคนอาจร้องยี้ เพราะรายละเอียดที่คมคายไม่เท่าสองแบบแรก...แต่อย่าลืมว่า นี่เป็นสิ่งที่เหมาะสมกับกำลังทรัพย์และไม่ผิดกฏหมาย ผมมีเพื่อนฝรั่งหลายๆคนที่เพ้นต์ฟิกเกอร์พลาสติกได้สวยกว่าใครๆที่ทำเรซิ่นปลอมๆในประเทศนี้เยอะครับ

จากเหตุผลคำกล่าวอ้างทั้งหลายที่ยกมา ทำให้หลายๆท่านพึงพอใจกับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ แต่รู้ไหมว่านั่นคือหนทางทำลายวงการนี้ทางอ้อม... เคยคิดไหมว่า การที่บ้านเมืองเราทำไมหาของแท้มาทำยากกว่างมเข็มในมหาสมุทธ? แล้วเคยคิดบ้างไหมว่าทำไมไม่มีใครนำเข้าของแบบนี้มาขายเป็นเรื่องเป็นราวซักที?... คำตอบก็คือ เพราะของปลอมมันเกลื่อนเมืองไปหมดยังไงล่ะครับ
จริงๆนานมาแล้วทุกท่านคงเคยจำได้ว่าเคยมีผู้นำเข้าคนหนึ่งที่นำสินค้าดีๆมาให้พวกเราเล่นแล้วก็ปิดตัวไป
เสียดายไหมครับ...ความจริงคือว่าหลังจากที่เขาขายของได้เพียงแบบละ1-2ตัว หลังจากนั้นไม่นานจะมีของก๊อปปี้ออกมาขายตลอดเวลา จนในที่สุดเขาก็ขายไม่ดีจนเลิกไปในที่สุด...

เป็นบทเรียนที่ดีครับ หลายๆคนเสียดายแต่ก็ลืมมันไปในไม่ช้า กลับมาใช้ของปลอมที่จับฉวยง่ายราคาถูก แต่มีเบื้องหลังที่แสบเจ็บแสบ... บางที่ประกาศตัวว่าไม่สนับสนุนของลอกเลียนแบบแต่พอมีเรื่องมีราว...ก็แนะนำกันให้ขายกับแบบเงียบๆบ้าง ตามเมลบ้าง ทำเหมือนส่งมอบยาเสพติดยังไงยังงั้น ทั้งๆที่หลายๆท่านไม่คิดเลยหรือไรว่า การกระทำเยี่ยงนี้ จะไม่มีใครกล้ามาลงทุนแบบร้านข้างต้นในอนาคต ดีลเลอร์ดีๆ หรือร้านฟิกเกอร์โดยตรงแบบนานาประเทศจะไม่เกิดขึ้น และเราจะไม่มีทางยกระดับตัวเองขึ้นทัดเทียมสากลได้...
ถ้าเป็นอย่างนี้ต้อไป เราคงไม่พ้นเบ่งกันไปมาในกระลาอย่างเช่นในอดีต...

ร่วมมือกันให้โลกเห็นและจดจำ!

12 comments:

Anonymous said...

เห็นด้วยกับท่านเจ้าของบล็อค

คนที่ทำแบบนี้ก็เท่ากับเป็นหัวขโมย คนซื้อก็สำคัญถ้าไม่มีความต้องการก็ไม่มีคนไปขโมยมาทำ


ชอบอ้างกันว่าจะช่วยให้วงการ(โจรกรรม)ดีขึ้น ผ่านมากี่ปี วงการมันก็ไม่เห็นจะดีขึ้นด้วยวิธีการนี้แต่อย่างใด นอกจากมันจะช่วยให้กระเป๋าของบางคนตุงขึ้น

Pongsatorn Kanthaboon said...

ขอคุณมากๆครับ

ที่ผ่านมาแนวคิดนี้ของผมโดนคนต่อต้านมากมาย
แต่ผมก็ยังคงเข้มแข็งกับความคิดนี้อย่างหนักแน่น

ผมหวังอย่างยิ่งว่า...คนจะคิดแบบนี้มากๆขึ้น
เพื่อที่วงการจะเจริญทัดเทียมสากลครับ

พงศธร

Anonymous said...

ผมอาจเป็นแค่ส่วนเล็กๆ แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้สร้างผลงานดีๆต่อไปครับ

มันก็มีคนคิดแบบนี้เยอะเหมือนกัน แต่ไม่กล้าพูดกลัวถูกด่า

ผมเชื่อนะว่าเราจะพัฒนาได้มันต้องเกิดจากแรงกาย และมันสมองของเราเองสินะ?

Pongsatorn Kanthaboon said...

คนเราพัฒนาได้ เกิดจากสมองและความสำนึกผิดชั่วครับท่าน การที่เราคิดว่าเซพกระเป๋าตัวเองแล้วไปทำลายคนอื่น ผมคิดว่าคนๆนั้นไร้ความรับผิดชอบในการเป็นมนุษย์... ไม่ไช่เลยที่ผมจะบอกว่าคนเราชอบของแท้ต้องใช้ของแท้ทุกอย่าง แต่กับสิ่งที่รักที่สุดแล้ว ควรมีความจริงใจกับมันมิไช่เหรอ?...

คนคิดแบบนี้มีเยอะครับ เขาไม่กล้าพูดผมก็ไม่ได้ไปว่าอะไร แต่ผมเป็นคนทำงานตรงนี้ การรับผิดชอบคอยดูแลให้กับบริษัทที่ทำให้เรามีกินมีใช้ ผมถือว่าเป็นส่วนหนึ่งเหมือนกัน... บางคนเห็นแก่ตัวก็ว่าฝรั่งมันเอาข้าวไทยไปเยอะต้องแก้แค้นมัน...คนแบบนี้ผมเห็นว่าคิดตื้นและไม่มีภาวะมากๆครับ คุณเจ้าของบริษัทคนนั้นไม่ได้เป็นคนทำเลยทำไมต้องเอาไปโยงด้วยนะ?

เรื่องนี้ผมคิดทีไรก็อ่อนใจ...แม้ท่านจะเป็นคนเดียวที่ให้ความเห็น ณ.ที่นี้ แต่ผมก็ขอบคุณอย่างมากที่อย่างน้อย...ก็มีคนที่เปิดกระลาออกมาเห็นความเป็นจริง
แม้ว่า...จะมีอีกมากมายที่ยังหาไม่พบก็ตาม...

คนไทยไม่เคยแพ้ใคร แล้วจะละเมิดทำไม?
ถ้าทุกคนกล้าออกความเห็นโดยไม่กลัวคำด่า
แม้จะเป็นส่วนน้อย แต่อินดิวิดวล แคนเมค คอมมูนิตี้ ครับ!!!

Copyman said...

คุณกล้าสาบานต่อหน้าพระพุทธชินราชไหมว่า คุณใช้ Window แท้ แล้วคุณก็ไม่เคยเล่นของก็อปปี้เลย
คุณมาด่าคนไทยด้วยกันเองโดยเฉพาะเพื่อนร่วมวงการของคุณ ก็พวกที่คุณด่าเขานี่แหละที่สมัยก่อน เคยเล่นของก็อปปี้มาด้วยกัน หรือไม่จริง ถ้าคุณรักความชอบธรรมามากๆ คุณก็ควรจะลืมตาดูโลกได้แล้วว่าจีนกำลังก็อปปี้งานอะไร ถ้าคุณอยากฟ้องก็ไปฟ้องศาลโลกเลยสิ ให้ไอ้พวกฝรั่งที่ทุกวันนี้จะเป็นเหมือนคนที่คุณนับถือเสียยิ่งกว่าใครมันดีใจ ผมก็ไม่เห็นไอ้พวกตาน้ำข้าวมันทำห่าอะไรจีนได้เลย ให้ตายสิ มันช่างสะใจดีจริงๆ หรือถ้าคุณขี้แงมากๆก็ไปบ่นกับฝรั่งซะเลย มันจะได้โอ๋คุณ นี่แหละ คนที่วันนึงพอมีชื่อเสียงก็ลืมว่า ตัวเองเคยเป็นบัวใต้น้ำ พอมีโอกาสโผล่พ้น้ำก็เหยียบย่ำเพื่อนบัวที่อยู่ใต้น้ำ นี่หนะเหรอ สันดานคนไทยด้วยกัน ตลก

Pongsatorn Kanthaboon said...

Hikki คุณไม่รู้จักสูงต่ำ....
คนอย่างคุณได้แต่ออดอ้อนชาวบ้าน
ไปซะ.... ไปอยู่ในโลกของคุณ

ทุกวันนี้เศรษฐกิจไม่ว่ารัฐบาลไหนก็ไปอ้อนวอนต่างชาติให้มาลงทุน

แต่สำหรับผมไม่ได้กราบขอร้องใคร ให้มาทำงานด้วย.... แต่ที่ผมได้งานนี้ เพราะฝีมือของผม ถ้าคุณไม่มีฝีมือ คุณมาเที่ยวว่าคนอื่นเขาไม่ได้ ผมทำงานไม่ว่าบริษัทโลกพระจันทร์หรือดาวอังคารหรือ อเมริกา ผมต้องรักษาผลประโยชน์ของบริษัทที่ผมทำ
แต่ถ้าคุณทำงานที่บริษัทไหนและพร้อมจะหักหลังบริษัทคุณได้ตลอดเวลา... ช่วยบอกหน่อยว่าคุณ ชื่อและนามอะไร....

ดู๋ said...

อ๋าท่านแพน Hikki คนนี้ป่ะ?

นิรุตม์ จีนอยู่ 167/2 ซ.สุขุมวิท 56 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม ว่ากันว่าทำงานบริษัทคอมมีนายฝรั่ง?

เข้าร่วม msot มาหนึ่งปี ยังไม่เคยทำผลงาน*เป็นชิ้นเป็นอันมาลงซักชิ้นเดียว! (*งานโมเดลที่ประกอบทำสีเสร็จ-ไม่ได้ลบหลู่นะฮะ555)

ส่วนใหญ่อยู่ห้องแกะกล่อง ซื้อของห้องขาย ปัจจุบันผันตัวเป็นพ่อค้าเรซิ่นก็อป เรียกหรูๆไม่สะดุดรูหูว่า
รีเคส (อนาคตฝันเป็นเจ้าพ่อฟิกเกอร์???)

Anonymous said...

เอ่อ ไอ้ดู๋กระจู๋ ครับ ไม่ทราบว่าหน้าตัวผู้หรือตัวเมียครับ เอาที่อยู่ของคนอื่นไปลง แล้วอีกอย่าง คุณ แพนเซอร์ครับ ผมเครพท่านนะครับ ฝีมือท่านดี แต่ถ้าท่านพิจารณาดีๆแล้ว ผมว่าไม่ใช่ท่าน Hikki หรอกครับที่ใช้ชื่อ Copyman เพราะว่าถ้าเค้าจะ ด่าแบบนี้เค้าด่าในเวป MSOT แล้วละครับ แล้วก็ ภาษาพิมพ์ไม่เหใอนเลยครับ อยากให้ท่านพิจารณาหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ

แล้วไอ้ดู๋ครับ อย่าหน้าตัวเมียครับ ลงชื่อคนอื่นด้วย ลงชื่อตัวเองด้วยสิครับ เพราะว่าไปว่าเค้าไม่มีงานโชวืแล้วคุณดู๋หัวกระจู๋มีงานโชว์มั้ยครับ อย่าดีแต่ปากกับหน้าคอมครับ นั่นเค้าเรียก ตุ๊ด ครับ แล้วก็ถ้ามีปัญหากับผม คุณดู๋หัวกระจู๋เก่งนักก็เปิดฉากกับผมนี่อย่าไปลกบล๊อคคุณแพนเซอร์แก นะครับ อย่าทำตัวเป็นดู๋กระขู๋ไร้ค่านะครับ มาตามดมก้นผมก็ได้ ก้นผมหอมน่าดมจะตายไปนะ

Redbaron said...

. . . . ถึงคุณดู๋นะครับ คนเล่นฟิกเกอร์มีหลายประเภทนะครับ บางคนซื้อมาต่อก็สุขแล้ว บางคนซื้อกองไว้ดูก็สุขใจอีกเช่นกัน ฉะนั้นเรื่องผลงานในบอร์ด ไม่จำเป็นครับ สิ่งนึงที่ผมว่ามันไม่เหมาะนักคือ การที่คุณดู๋โพสชื่อจริง ที่อยู่ของคนอื่น โดยที่ตัวคุณดู๋เองไม่กล้าที่จะลงชื่อตัวเองไว้ นั่นแสดงถึงการไม่กล้ารับผิดชอบในการโพสนะครับ การกระแบบนี้ผมว่าคุณดู๋ไปนุ่งกระโปรงดีกว่าครับ คนในบอร์ด msot ยิ่งคนห้องฟิกเกอร์ด้วยเค้าไม่ทำอะไรตุ๊ด ๆ กันแบบนี้หรอกครับ
. . . . . เรื่องละเมิดลิขสิทธิ์อันนี้ผมไม่เถียงครับ ผิดก็ว่าไปตามผิด ส่วนตัวผมเล่นฟิกเกอร์ทั้งแท้และเทียมครับ และก็ใช้ของละเมิดในชีวิตประจำวันหลายอย่าง ผมจึงไม่ใช่คนดีพอที่จะออกมาโพสเกี่ยวกับเรื่องลิขสิทธิ์ได้เต็มที่เพราะละอายแก่ใจตัวเองครับ................ดูที่อยู่ผมในบอร์ดmsotได้นะครับ.

Anonymous said...

ผมชิชิมารุนะ ผมทราบเรื่องท่านแพนเซอร์มาบ้างเหมือนกัน ในมุมมองคนผม ท่านใช้คำรุนแรงกับคนเหล่านั้นมากไปครับ เลยได้ผลลัพธ์ออกมาแบบนี้ ถ้าท่านเปลี่ยนวิธีพูดให้ดูอ่อนเหมือนการโน้มน้าวจิตใจคน คงดีกว่านี้ ท่านแพนเซอร์ลองย้อนกลับไป ถ้าท่านไม่ได้ทำงานให้ฝรั่ง ท่านจะคิดแบบนี้รึป่าว??? ถ้าท่านย้อนกลับไปแล้วได้ทบทวนดีแล้วว่า ท่านจะยังคงอุดมการณ์เรื่องลิขสิทธิ์ ผมว่าเรื่องนี้ไม่มีวันจบหรอกครับ

อนึ่งถ้าทุกอย่างเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ ท่านคิดว่าโลกนี้จะพัฒนาได้เหรอครับ ประเทศไทยจะพัฒนาได้เหรอครับ ถ้าฝรั่งคิดก่อนเรา ป่านนี้เรายังคงเขี้ยวหมาก ทำนาอยู่กะมัง ผมเชื่อนะครับ ว่าสินค้าที่ขายอยู่ไม่ส่งผลกระทบกับรายได้ของบริษัทที่ท่านทำงานให้อย่างซื่อสัตย์ เพราะคนที่ซื้อของเหล่านี้ เค้าไม่ได้คิดจะซื้อของจากบริษัทของท่านเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว

ประเทศจีน อาศัยการก๊อปปี้ จนพัฒนาประเทศรวดเร็วทัดเทียมมหาอำนาจได้ วันนี้เค้าเป็นมหาอำนาจ เค้าผลิตสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ มากมายอยู่ ท่านทราบหรือไม่ หรือว่า รู้เพียงจำนวนเงินที่ได้จากบริษัทที่ทำงานให้กับอัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลล่าร์ยูโร เป็นเงินบาท

หากท่านจะประนามคนที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ทำไมจึงเลือกปฏิบัติเฉพาะกับฟิกเกอร์ครับ ผมยังเห็นท่านโพสต์ในกระทู้การละเมิดลิขสิทธิ์หนังสืออยู่เลย ??????

ลองทำความเข้าใจใหม่นะครับท่านแพนเซอร์ เดินทางสายกลางดีกว่า เราห้ามไม่ได้ แม้แต่ไมโครซอฟท์ยังรู้ตัวเอง แต่รณรงค์จะดีกว่า

Anonymous said...

อีกเรื่องหนึ่ง คือ ท่านเป็นความภาคภูมิใจของชาวฟิกเกอร์โมเดล เมืองไทยนะครับ ผมก้อยังภูมิใจเลยที่เมืองไทยมีนักปั้นเก่งๆแบบนี้อยู่ ช่วงหลังๆนิไม่ได้คุยกันทางเอ็มเลยแต่ผมติดตามผลงานท่านอยู่นะครับ ถึงอุดมการณ์จะแตกต่าง แต่เราก้อยังเป็นคนไทยเหมือนกันครับ ไม่ใครรักคนไทยเท่ากับคนไทยรักกันหรอกครับ

Pongsatorn Kanthaboon said...

เอาเป็นว่าผมหยุดและหายไปพักใหญ่แล้วนะครับ
ก็รู้ตัวอยู่ว่ายุ่งกับเรื่องพวกนี้มากมมันก็เหนื่อย...

ผมเลิกออกความเห็นในที่อื่นเพราะรู้ว่ามีคนอยู่กันเยอะ
ก็มาออกความเห็นในที่ของผมเอง และผมก็เขียนในลักษณะบทความครับ คำตอบที่ออกมาท้าทายก็ไม่ไช่ออกจากผม

ผมขี้เกียจคิดเหมือนกันว่าใครจะไช่ใครหรือไม่ แต่หลังจากที่ผมหยุดพูดแล้ว ทางเว็บนู้นพูดอะไรกันทำไมผมไม่รู้ล่ะครับ แล้วคนที่แรงไม่เลิกก็เป็นคนที่ผมพาดพิงถึง พอมาเจอที่นี่ ผิดไหมที่ผมจะคิดว่าเป็นคนๆเดียวกัน

ตอนที่ผมเข้าไปดูในเว็บผมเห็นพี่ๆหลายคนก็ยังเขียนแขวะอยู่ ตอนนั้นผมก็เสียใจว่ารู้จักกันมานานไม่น่ามาแซวแรงๆแบบนี้ วันนั้นผมก็โทรไปโวยเพราะอารม หลังจากนั้นผมก็เมลไปขอโทษพี่เขาและบอกเหตุผลว่าทำไมผมถึงโกรธ... ผมไม่ไช่คนโวยวายแบบไร้สาระและไม่มีเหตุ...ตอนนี้ธุระกิจท่านก็ดำเนินไป ผมก็ไม่ได้ยุ่งอะไร...เรื่องที่ผมอัดอั้นผมก็ระบายอยู่ในพื้นที่ๆไม่เบียดเบียนใครนัก...

แค่นี้ก็น่าจะพอกันได้ ถ้าทุกท่านไม่ต่อผมก็ไม่ต่อ
และจะขอโทษหลายๆท่านที่ไม่พอใจด้วยซ้ำ...